.jpg)
กายรักษ์คลินิกกายภาพบำบัดที่ให้ประสิทธิภาพในการรักษาสูงในราคาเบาๆ | ปวดเมื่อย คอบ่าไหล่ ออฟฟิศซินโดรม หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท นิ้วล็อค ไหล่ติด ข้อเสื่อม
ปวดที่รองช้ำในทุกครั้งที่ก้าวเดิน วิ่งก็ทรมาน จะรักษาอย่างไร
เคยหรือไม่ ที่มีอาการเจ็บที่ส้นเท้าจนลามไปทั่วฝ่าเท้าโดยเฉพาะจะมีอาการปวดมากที่สุดเมื่อลุกเดินก้าวแรกหลังตื่นนอนหรือหลังจากนั่งพักเป็นเวลานาน หากเคย นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของ “โรคพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ”
ภาวะรองช้ำ ดูเหมือนไม่ใช่การบาดเจ็บที่อันตรายแต่หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ทำการรักษา อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันจากความทรมานบริเวณฝ่าเท้าได้ หากมีอาการปวดส้นเท้าผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไปและการรักษาโรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบจะต้องอาศัยความร่วมมือของผู้ป่วยเป็นหลักเพราะการใช้ยาเพียงอย่างเดียวไม่ทำให้หายได้ โดยผู้ป่วยต้องลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ แก้ไขรองเท้าและทำกายภาพบำบัดยืดเอ็นฝ่าเท้าและกล้ามเนื้อน่องเป็นประจำจึงจะทำให้อาการทุเลาได้

นักกายภาพบำบัดจะทำการตรวจประเมินการเคลื่อนไหวที่เท้าและเอ็นฝ่าเท้าโดยละเอียด หากพบการอักเสบ ปวด บวมของผังพืดฝ่าเท้า หรือปวดตึงไปตามขาหรือน่องจึงจะรักษาด้วยเครื่องมือทางกายภาพบำบัด และสอนการทำกายบริหาร เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ โดยไม่จำเป็นต้องรับประทานยา หรือ เข้ารับการผ่าตัดแต่อย่างใด
การรักษาอาการรองช้ำด้วยกายภาพบำบัดเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการและเพิ่มฟังก์ชันการทำงานของกล้ามเนื้อ
โดยมีวิธีการรักษาดังนี้

การประเมินและวินิจฉัย : การเริ่มต้นด้วยการประเมินและวินิจฉัยปัญหาทางกายภาพ ซึ่งสามารถทำได้โดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด โดยการสำรวจอาการปวด การตรวจสอบความเคลื่อนไหว และประเมินภาพรวมของร่างกาย
การออกกำลังกายและการยืดกล้ามเนื้อ : ผู้ป่วยอาจต้องทำกิจกรรมการออกกำลังกายและการยืดกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ อาจมีการใช้ท่าทางการยืดกล้ามเนื้อเฉพาะ หรือออกกำลังกายโดยกายภาพบําบัดที่เน้นการยืดกล้ามเนื้อ
การกายภาพบำบัดแบบแรงต้าน : การใช้แรงต้านเพื่อฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรงและยืดหยุ่น โดยใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ
การฟื้นฟูศักยภาพและความสามารถในการทำงาน: การฝึกซ้อมและการทำกิจกรรมที่เน้นความสามารถในการทำงานและฟื้นฟูสภาพกล้ามเนื้อให้กลับสู่ระดับปกติ ซึ่งอาจรวมถึงการทำงานในภาวะทางการทำงานจริง เพื่อป้องกันการกลับมาเกิดอีกครั้ง
การให้คำแนะนำและการศึกษาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของกล้ามเนื้อ : การให้คำแนะนำเกี่ยวกับท่าทางที่ถูกต้องในการทำงาน การยกของ การยืน เดินหรือวิ่ง รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องที่อาจเป็นสาเหตุของปัญหา
การวิเคราะห์และปรับท่าทางการทำงาน : ผู้ป่วยอาจต้องปรับเปลี่ยนท่าทางการทำงาน เช่น การปรับความสูงของโต๊ะทำงาน การปรับที่นั่งให้รองรับร่างกาย หรือการเปลี่ยนแปลงท่าทางในการยกของ เพื่อลดการเอนหลังและการกดทับในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
การรักษาโดยเครื่องมือทางกายภาพบำบัด :
เครื่องอัลตราซาวด์ (คลื่นร้อนความลึก) กระตุ้นเลือดให้มาเลี้ยงบริเวณที่มีจุดกดเจ็บ และตึงตัวมากเกินไป ทำให้เลือดกลับมาเลี้ยงบริเวณที่ปวดมากขึ้น เป็นสาเหตุให้กล้ามเนื้อคลายตัว คนไข้จึงรู้สึกโล่งขึ้น
เครื่อง ES (electrical stimulator) เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าจะเข้าไปกระตุ้นเส้นใยกล้ามเนื้อและเส้นประสาทขนาดใหญ่และไปยับยั้งการส่งกระแสประสาทความเจ็บปวด จากเส้นประสาทขนาดเล็กไม่ให้ส่งกระแสประสาทจากบริเวณที่เจ็บปวดไปสู่สมอง และ กระแสไฟฟ้าจะกระตุ้นเส้นใยประสาทที่รับความเจ็บปวดให้หลั่งสาร เอ็นเคฟาลิน (enkephalin) ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายมอร์ฟีน ที่ช่วยลดการเจ็บปวดนอกจากนี้ยังกระตุ้นสารลดความเจ็บปวด เอ็นโดฟิน(endorphin) จึงสามารถลดปวดได้
เครื่อง Shock wave (คลื่นกระแทก) กระตุ้นการบาดเจ็บเพื่อสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้ลดอาการปวด โดยวิธีการลดสารสื่อประสาทที่ส่งสัญญาณปวดและกระตุ้นการลดปวดในกล้ามเนื้อ (re-injury) จึงจะเห็นผลหลังการรักษาทันที
การรักษาอาการรองช้ำด้วย กายภาพบําบัด เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดอาการปวด ลดอาการเสียดสีและการกดทับเส้นประสาท และเพิ่มฟังก์ชันการทำงานของกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้วิธีการรักษาที่เหมาะสมควรพิจารณาโดยพิจารณาจากความรุนแรงของอาการ และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด เพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุดในการรักษาอาการรองช้ำ
